เชิดชูสู้เพื่อเด็ก อั๊คเซ่ จิตรกรในเมืองแมนเชสเตอร์ลงทุนทำรูปขนาดใหญ่ของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ตรงผนักของอาคาร เพื่อชมเชยที่เขาพยายามทำให้เด็กได้รับประทานอาหารแบบฟรีๆ
เชิดชูสู้เพื่อเด็ก อั๊คเซ่ จิตรกรในเมืองแมนเชสเตอร์ อังกฤษ ทำจิตรกรรมข้างฝาผนังเป็นรูปของ มาร์คัส แนวรุก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพื่อเป็นการชื่นชมที่อีกข้างต่อสู้อย่างมากกับวิธีการทำให้เด็กๆได้สิทธิ์ทานอาหารแบบฟรีๆในตอนการแพร่ระบาด ของเชื้อไวรัสโควิด-19
แรชฟอร์ด เรียกร้องให้เด็กได้สิทธิ์ กินข้าวแบบฟรีๆ อย่างมากตั้งแต่มี.ค.ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา โดยเขาถึง ขนาดเคยทำให้รัฐบาลยอมเปลี่ยนความคิดได้รอบหนึ่งด้วย แต่ว่าในรอบปัจจุบันรัฐบาลการันตีว่าจะไม่ดำเนินหลักการการแจกของกินฟรีๆอีกต่อไป แต่กระนั้น หัวหอกคนประเทศอังกฤษก็ยังเดินหน้าระดมทุนและก็ทำรณรงค์แจกของกินฟรีให้เด็กๆภายในประเทศถัดไป จนถึงในที่สุด ก็ทำให้มีคนไม่ใช่น้อยที่ตกลงใจช่วยเหลือเด็กๆร่วมกับเขา
เรื่องดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นทำให้ ได้รับคำกล่าวชมเชย จากหลายข้าง รวมทั้งได้รับเหรียญชั้นเอ็มบีอีด้วย และก็ปัจจุบัน อั๊คเซ่ ก็ตกลงใจที่จะชมเชยตัวรุกกลุ่มชาติอังกฤษด้วยเช่นเดียวกัน โดยเขาทำรูปขนาดใหญ่ของ ตรงกำแพงของ อาคารแห่งหนึ่ง โดยมันถูกทำในแบบสีขาว-ดำ บ้านผลบอลทีเด็ด
มาร์คัส แรชฟอร์ด แนวรุก แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นชื่อเล่นใหม่ในวันเกิดข้างหลัง ปอล ป็อกบา ตั้งให้ ด้าน ฆวน มาต้า ร่วมอำนวยพรด้วย
ปอล ป็อกบา มิดฟิลด์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งชื่อเล่นใหม่ให้กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ศูนย์หน้าเพื่อนฝูงร่วมกลุ่มที่พึ่งจะสังสรรค์วันเกิดครบรอบอายุ 23 ปี เมื่อวันเสาร์ที่ 31 เดือนตุลาคม ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาว่า “เจ้าชายที่อังกฤษ” ภายหลังจากทำประโยชน์สวยคุณงามความดี ให้กับประเทศภูมิลำเนาเป็นอย่างมาก
แรชฟอร์ด พึ่งได้รับพระราชทานตราชั้นเอ็มบีอี จากการที่ช่วยเหลือเด็กๆในสหราชอาณาจักรตอนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งยังระดมทุนเพื่อนำของกินไปบริจาคให้กับเด็กๆรวมทั้งเรียกร้อง ให้รัฐบาล กลับใจเรื่องยกเลิกการแจกคูปองสำหรับเพื่อ การแลกเปลี่ยน อาหารฟรีด้วย
การที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เอาชนะ แอร์เบ ไลป์สิกข์ 5-0 เมื่อวันพุธที่ 28 เดือนตุลาคม ก่อนหน้านี้ มันมีเรื่องมีราวที่น่าดึงดูดหลายแบบ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นการที่ มาร์คัส แผงหน้า “ปีศาจแดง” สามารถทำแฮตทริกให้สังกัดเดิมได้เป็นครั้งแรกในอาชีพการเล่น แถมเขายิงได้ 3 ลูกทั้งๆที่เกมนี้เป็นเพียงแค่ผู้เล่น สำรองแค่นั้นด้วย โดยเขาถูกสลับตัวลงในสนามในนาทีที่ 63
ดังนี้ ผลงานดังที่กล่าวถึงมาแล้วทำให้ แปลงเป็น นักฟุตบอลผู้ที่ 5 ในประวัติศาสตร์ของ แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ลงมาเป็นตัวสำรองแล้วสามารถทำแฮตทริกได้ แล้วก็วันนี้พวกเราจะมาย้อนมองกันว่า 4 คนที่ผ่านมามีคนใดกันบ้าง
มันมีเพียงแค่ไม่จำนวนกี่ครั้งที่จะมีการสลับตัวตั้งแต่ครึ่งแรกในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก รวมทั้งนี่ก็ยอดเยี่ยมในนั้นเมื่อ รอคอยสเลอร์ โดนเปลี่ยนตัวกับ แฮร์รี่ โคช ตั้งแต่นาทีที่ 38 โดยที่ในตอนนั้น เฮลซิงกิ นำอยู่ 1-0 ด้วย อย่างไรก็ดี รอคอยสเลอร์ ก็โชว์ความยอดเยี่ยมด้วยการโหม่งตีเสมอให้กลุ่มได้ในนาทีที่ 43 ทำให้ครึ่งแรกสิ้นสุดลงด้วยการเท่ากัน 1-1 คนนี้ดีแน่
พอเพียงถึงนาทีที่ 61 คอยสเลอร์ ก็โหม่งทำคะแนนให้กลุ่มหนีห่างเป็น 3-1 ได้ ก่อนที่จะทำคะแนนที่ 3 ของตนเองในนาทีที่ 80 จนถึงช่วยทำให้ ไกเซอร์สเลาเทิร์น หนีห่างเป็น 4-2 ซึ่งประตูที่ 3 ของเขาก็มาจากการกระแทกเช่นเดียวกัน กล่าวได้ว่า 3 ประตูในวันนั้นของเขามาจากลูกโหม่งทั้งปวง โดยถ้าเกิดนับระยะห่างระหว่างตอนลงสู่สนามกับในระหว่างที่เขาทำแฮตทริกได้นั้นมันก็นับว่าเขาใช้เวลาไปราว 42 นาทีร่วมกัน
ยอเรนเต้ ถูกสลับตัวกับ กีเยร์บด ฟรังโก้ ในเวลาพักครึ่ง โดยที่ในช่วงเวลานั้นสกอร์เท่ากันอยู่ 2-2 ซึ่ง ยอเรนเต้ ก็ทำคะแนนแรกให้กับตนเองในนาทีที่ 66 กระทั่งทำให้ บียาร์เรอัล ขึ้นนำ 3-2 ก่อนที่จะเขาจะใช้เวลาอีกเพียงแค่ 3 นาทีสำหรับการทำคะแนนที่ 2 ของตนเองกระทั่งทำให้กลุ่มหายใจได้ชำนาญขึ้น
ดังนี้ ยอเรนเต้ มาทำแฮตทริกได้ด้วยการยิงในตอน 7 นาทีในที่สุดของเกม ซึ่งมันก็เป็นประตูจบท้ายของ บียาร์เรอัล ในวันนั้นด้วย ทำให้โดยรวมแล้วเขาใช้เวลาในสนาม 37 นาทีก่อนจะทำแฮตทริกได้
โดยในช่วงฤดูกาล นั้นเขายัง ทำแต้มในรอบ 16 กลุ่มท้ายที่สุดได้อีก 1 ลูกด้วย ก่อนที่จะ “เรือดำน้ำสีเหลือง” จะหยุดป้ายที่รอบ ก่อนรองชนะเลิศด้วยมือของ อาร์เซน่อล
เชิดชูสู้เพื่อเด็ก อย่างไรก็ดี ปันดินี่ ก็จุดประกายความมุ่งหวังให้เจ้าถิ่นด้วยแนวทางการทำประตูในนาทีที่ 57 รวมทั้งพอเพียง ดีเอโก้ ทริสตัน ทำคะแนนตีตื้นเป็น 2-3 ให้กับ ลา กอรุนญ่า ในนาทีที่ 60 ได้แล้วนั้น ปันดินี่ ก็มาเหมาผู้เดียว 2 ลูกในนาทีที่ 76 กับ 84 จนถึงทำให้ ลา กอรุนญ่า แซงชนะไปแบบสุดสนุกสนาน ทำให้ ปันดินี่ ใช้เวลาไป 38 นาทีสำหรับเพื่อการทำแฮตทริกในวันนั้น
ศูนย์หน้าชาวประเทศฝรั่งเศสจำต้องรอคอยถึงนาทีที่ 52 กว่าที่กำลังจะได้รับช่องทางลงเล่น แม้กระนั้นเขาก็ใช้มันอย่างคุ้มเมื่อทำคะแนนแรกของตนได้ในอีก 9 นาทีถัดมา โดยมันเป็นลูกที่ทำให้ ปารีสฯ หนีห่างเป็น 2-0 ก่อนที่จะเขาจะทำคะแนนที่ 2 ได้ในนาทีที่ 79 ซึ่งนั่นเป็นลูกที่ทำให้กลุ่มของเขานำ 4-0 ตามไปด้วย